KidsUP เป็นโปรแกรมที่รองรับทั้งภาษาอังกฤษและไทย เมื่อเริ่มสร้างบัญชี ผู้ปกครองควรเลือกอายุที่ตรงกับลูกเพื่อจะได้รับบทเรียนในระดับที่เหมาะสม จากนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของเด็กแต่ละคนจะมีแผนการเรียนที่เข้ากับลูกมากที่สุด และจะค่อยๆปรับตามเด็ก
- ระดับง่าย (อายุ 2-3 ปี): พาเด็กสำรวจโลก; เรียนรู้เกี่ยวกับรูปร่างและเงาของสิ่งของ หารูปที่หายไป จิ๊กซอว์ ฝึกการจำตำแหน่ง แยกความแตกต่างระหว่างความสูงและต่ำ ใหญ่และเล็ก หนักและเบา เรียนรู้สัดส่วนของร่างกาย
- ระดับปานกลาง (อายุ 3-5 ปี): จะมีเกมง่ายๆช่วยเพิ่มจำนวนคำตอบและเพิ่มความยาก รับรู้กับตัวอักษร เกมหากฎง่ายๆเลือกสี ทาสี เรียนรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อาหารของสัตว์ ต่อจุดเพื่อสร้างรูปร่าง ระบายสีง่ายๆ เรียนวิธีบอกเวลา
- ระดับขั้นสูง (อายุ 4-6 ปี): ความยากของเกมยังคงเพิ่มขึ้นและรวมกับ เกมlogic เขาวงกต เรียนรู้ตัวเลข ปริมาณ คณิตศาสตร์ และการเปรียบเทียบ
ก่อนเริ่มบทเรียน แอปพลิเคชันจะตรวจสอบระดับเสียงของอุปกรณ์เพื่อให้ผู้ปกครองปรับตามความเหมาะสม ซึ่งสำคัญมาก เพราะก่อนคำถามแต่ละข้อจะมีเสียงครูสอนตลอดเพื่อให้กำลังใจเด็ก ช่วยให้เด็กจดจ่อกับบทเรียนและหลีกเลี่ยงเสียงอื่นๆ เช่นเสียงโทรทัศน์หรือเสียงรบกวน
นอกเหนือจากบทเรียนที่มีธีมมากกว่า 1,000 บทเรียนให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ทุกวัน KidsUP ยังมีเกมแบบโต้ตอบมากกว่า 98 ประเภทที่แบ่งตามสมองซีกซ้ายและซีกขวาในส่วนฝึกฝนสำหรับเด็ก ๆ เพื่อฝึกทักษะที่อ่อนแอ
ชุดบัตรคำศัพท์ตามวิธี GlennDoman แบ่งออกเป็นหัวข้อ ผู้ปกครองสามารถตั้งเวลาในการสับไพ่ตามอายุได้ ควรสับไพ่วันละ 3 ครั้ง แต่ละเซสชันมี 5 หัวข้อเพื่อช่วยให้เด็กฝึกสมองซีกขวาเพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อ synaptic และซึมซับข้อมูลด้วยความเร็วสูง
หลังจากแต่ละบทเรียน ผู้ปกครองสามารถร้องเพลงร่วมกับลูกๆ ของพวกเขาพร้อมรายการเพลงกล่อมเด็กหลายเพลงในบทเรียนดนตรี
เกมของ Kids UP มีการปฏิสัมพันธ์ที่ดี เนื้อหาหลากหลาย ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ส่วนใหญ่สนใจ และอยากเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้คุณสร้างช่วงเวลาพักสำหรับลูกเพื่อรักษาความอยากเรียนรู้ (การรอคอยบทเรียนต่อไป) และเพื่อเด็กได้มีเวลาในการซึมซับความรู้ใหม่ ผู้ปกครองควรกำหนดเวลาเรียนที่แน่นอน 1 หรือ 2ครั้งต่อวัน หลังจากนั้นควรเก็บอุปกรณ์ออกจากห้องทันที
บทเรียนของ Kids UP ได้รับการออกแบบอย่างเป็นระบบและออกแบบมาเพื่อเด็กจะได้เห็นข้อมูลซ้ำๆ เพื่อกระตุ้นและพัฒนาความคิดของเด็กผู้ปกครองควรให้เด็กได้เรียนอย่างสม่ำเสมอและค่อยๆเพิ่มจำนวนบทเรียน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเด็ก มันจะดีกว่าการให้เด็กเรียนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพัก แต่ไม่สม่ำเสมอ
พ่อแม่เวลาเล่นกับลูก พึงสังเกตว่าไม่ควรทดสอบลูก ให้ลูกค้นพบคำตอบและรับรางวัลด้วยตนเอง อย่าวิจารณ์หรือเล่นแทนให้ลูก เพราะจะทำให้ลูกไม่สบายใจ เฉื่อยชา พึ่งพ่อแม่ หรือแค่เล่นเสร็จๆตามหน้าที่
Kidsup.asia
hello@kidsup.net